ศิลปะการต่อสู้ และศิลปะป้องกันตัว
หลายคนคงเข้าใจว่า
ศิลปะการต่อสู้ และศิลปะป้องกันตัว คือ วิชาที่โหดร้าย ใช้ความรุนแรง
ฝึกแต่การต่อสู้ เหมาะสำหรับคนที่แข็งแรงเท่านั้น
แต่ความคิดเหล่านี้ถูกต้องหรือไม่
และศิลปะเหล่านี้มีความจำเป็นอย่างไรถึงมีคนกล่าวว่า ประเทศชาติบางประเทศสามารถเป็นเอกราชได้เพราะมีศิลปะการต่อสู้ของชาติ
ศิลปะการต่อสู้ และศิลปะป้องกันตัว คือ วิชาที่โหดร้าย ใช้ความรุนแรง
ฝึกแต่การต่อสู้ เหมาะสำหรับคนที่แข็งแรงเท่านั้น
แต่ความคิดเหล่านี้ถูกต้องหรือไม่
และศิลปะเหล่านี้มีความจำเป็นอย่างไรถึงมีคนกล่าวว่า ประเทศชาติบางประเทศสามารถเป็นเอกราชได้เพราะมีศิลปะการต่อสู้ของชาติ
ศิลปะการต่อสู้ และศิลปะป้องกันตัว
เป็นทั้งศาสตร์ และศิลป์ ที่เป็นศาสตร์ คือ เป็นวิชาที่ได้รับการพัฒนา
และสืบทอดต่อ ๆกันมา เพื่อใช้ประโยชน์ในการป้องกันตัว ปกป้องคนที่รัก
หรือปกป้องประเทศชาติ และเป็นศิลป์ คือ
ต้องนำศาสตร์ความรู้ที่ได้รับมาประยุกต์ใช้พลิกแพลงให้เข้ากับสถานการณ์
ทั้งในการต่อสู้ และการดำเนินชีวิต ดังนั้น ศิลปะการต่อสู้
และศิลปะป้องกันตัวจึงเป็นทั้งศาสตร์ และศิลป์
เป็นทั้งศาสตร์ และศิลป์ ที่เป็นศาสตร์ คือ เป็นวิชาที่ได้รับการพัฒนา
และสืบทอดต่อ ๆกันมา เพื่อใช้ประโยชน์ในการป้องกันตัว ปกป้องคนที่รัก
หรือปกป้องประเทศชาติ และเป็นศิลป์ คือ
ต้องนำศาสตร์ความรู้ที่ได้รับมาประยุกต์ใช้พลิกแพลงให้เข้ากับสถานการณ์
ทั้งในการต่อสู้ และการดำเนินชีวิต ดังนั้น ศิลปะการต่อสู้
และศิลปะป้องกันตัวจึงเป็นทั้งศาสตร์ และศิลป์
ศิลปะการต่อสู้
ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบมาให้ใช้ต่อสู้ แข่งขันกันเพื่อชิงความเป็นหนึ่ง การเอาตัวรอด
การทหาร หรือเพื่อความบันเทิงในสมัยโบราณ ดังเช่น การฝึกศิลปะการต่อสู้ประจำกองทัพ
หรือกีฬามวยปล้ำ และชกมวย ซึ่งมีการจัดแข่งขันกันตั้งแต่สมัยกรีก
ในการแข่งขันโอลิมปัส ซึ่งกีฬาเหล่านี้ล้วนแต่ใช้เทคนิคการต่อสู้ที่ใช้ความรุนแรง บวกกับสมรรถภาพทางร่างกายที่แข็งแรงเป็นปัจจัยสำคัญในการชิงชัย
โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ชนะเลิศมักจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งมาก ชนะคนที่แข่งแกร่งน้อยกว่า
ดังคำที่ว่า ปลาใหญ่กินปลาเล็ก และส่วนใหญ่จะเป็นกีฬาเพื่อแข่งขันชิงเงินรางวัล
หรือศิลปะการต่อสู้แบบทหาร ตำรวจ หรือหน่วยต่อสู้ต่างๆ เพื่อหวังทำร้ายให้ถึงแก่ชีวิต
ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบมาให้ใช้ต่อสู้ แข่งขันกันเพื่อชิงความเป็นหนึ่ง การเอาตัวรอด
การทหาร หรือเพื่อความบันเทิงในสมัยโบราณ ดังเช่น การฝึกศิลปะการต่อสู้ประจำกองทัพ
หรือกีฬามวยปล้ำ และชกมวย ซึ่งมีการจัดแข่งขันกันตั้งแต่สมัยกรีก
ในการแข่งขันโอลิมปัส ซึ่งกีฬาเหล่านี้ล้วนแต่ใช้เทคนิคการต่อสู้ที่ใช้ความรุนแรง บวกกับสมรรถภาพทางร่างกายที่แข็งแรงเป็นปัจจัยสำคัญในการชิงชัย
โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ชนะเลิศมักจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งมาก ชนะคนที่แข่งแกร่งน้อยกว่า
ดังคำที่ว่า ปลาใหญ่กินปลาเล็ก และส่วนใหญ่จะเป็นกีฬาเพื่อแข่งขันชิงเงินรางวัล
หรือศิลปะการต่อสู้แบบทหาร ตำรวจ หรือหน่วยต่อสู้ต่างๆ เพื่อหวังทำร้ายให้ถึงแก่ชีวิต
ศิลปะป้องกันตัว
แต่เดิมมาจากศิลปะการต่อสู้ต่างๆ
แต่ถูกพัฒนาเพื่อใช้ในการต่อสู้ป้องกันตัวที่แท้จริง
ซึ่งศิลปะป้องกันตัวจะถือหลักสำคัญที่ว่า เล็กชนะใหญ่ อ่อนชนะแข็ง ซึ่งหมายถึง
คนที่อ่อนแอกว่าสามารถชนะผู้ที่แข็งแรงกว่าได้ โดยพัฒนามาจากศิลปะการต่อสู้ และศึกษาเน้นความเข้าใจถึงโครงสร้างของร่างกาย
และจิตใจ กระบวนท่าเทคนิค การใช้ประโยชน์จากร่างกายให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
โดยพึ่งพากำลังจากกล้ามเนื้อให้น้อยที่สุดด้วย เพราะถ้ายังคงใช้กล้ามเนื้อเป็นหลัก
คนที่มีกล้ามเนื้อร่างกายที่แข็งแรงกว่าก็ยังคงเป็นผู้ชนะต่อไป
แต่เดิมมาจากศิลปะการต่อสู้ต่างๆ
แต่ถูกพัฒนาเพื่อใช้ในการต่อสู้ป้องกันตัวที่แท้จริง
ซึ่งศิลปะป้องกันตัวจะถือหลักสำคัญที่ว่า เล็กชนะใหญ่ อ่อนชนะแข็ง ซึ่งหมายถึง
คนที่อ่อนแอกว่าสามารถชนะผู้ที่แข็งแรงกว่าได้ โดยพัฒนามาจากศิลปะการต่อสู้ และศึกษาเน้นความเข้าใจถึงโครงสร้างของร่างกาย
และจิตใจ กระบวนท่าเทคนิค การใช้ประโยชน์จากร่างกายให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
โดยพึ่งพากำลังจากกล้ามเนื้อให้น้อยที่สุดด้วย เพราะถ้ายังคงใช้กล้ามเนื้อเป็นหลัก
คนที่มีกล้ามเนื้อร่างกายที่แข็งแรงกว่าก็ยังคงเป็นผู้ชนะต่อไป
ศิลปะป้องกันตัว จะเน้นฝึกฝนจิตใจ
ร่างกาย เทคนิค เป็นหลัก โดยการฝึกร่างกายมิได้หมายถึงฝึกฝนร่างกายให้มีความคงทนที่แข็งแกร่ง
และมีพละกำลังที่ดีเลิศ แต่หมายถึงการฝึกฝนร่างกายให้เคลื่อนไหวควบคู่กับเทคนิคต่างๆ
ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และการฝึกจิตใจหมายถึง มนุษยธรรม(仁จิน) คุณธรรม(儀งิ) มารยาท(礼เรย์) ปัญญาธรรม(智จิ) และซื่อสัตย์(信ชิน) ซึ่งเป็นคุณธรรม 5
ประการ ซึ่งถูกนำมาใช้เป็น คุณธรรม 5 ประการของนักรบ จีน และญี่ปุ่น เพื่อมิให้
ผู้ที่ได้รับการฝึกฝนนำวิชาไปใช้ในทางที่ผิด เนื่องจากผลที่ได้จากศิลปะป้องกันตัวนั้นรุนแรงมากถ้าถูกใช้ไปในทางที่ไม่ควร
นอกจาก คุณธรรม 5 ประการนี้ ส่วนใหญ่ในศิลปะป้องกันตัวจะสอดแทรกเนื้อหาของปรัชญา
และศาสนา ไว้เพื่อขัดเกลาจิตใจด้วย
ร่างกาย เทคนิค เป็นหลัก โดยการฝึกร่างกายมิได้หมายถึงฝึกฝนร่างกายให้มีความคงทนที่แข็งแกร่ง
และมีพละกำลังที่ดีเลิศ แต่หมายถึงการฝึกฝนร่างกายให้เคลื่อนไหวควบคู่กับเทคนิคต่างๆ
ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และการฝึกจิตใจหมายถึง มนุษยธรรม(仁จิน) คุณธรรม(儀งิ) มารยาท(礼เรย์) ปัญญาธรรม(智จิ) และซื่อสัตย์(信ชิน) ซึ่งเป็นคุณธรรม 5
ประการ ซึ่งถูกนำมาใช้เป็น คุณธรรม 5 ประการของนักรบ จีน และญี่ปุ่น เพื่อมิให้
ผู้ที่ได้รับการฝึกฝนนำวิชาไปใช้ในทางที่ผิด เนื่องจากผลที่ได้จากศิลปะป้องกันตัวนั้นรุนแรงมากถ้าถูกใช้ไปในทางที่ไม่ควร
นอกจาก คุณธรรม 5 ประการนี้ ส่วนใหญ่ในศิลปะป้องกันตัวจะสอดแทรกเนื้อหาของปรัชญา
และศาสนา ไว้เพื่อขัดเกลาจิตใจด้วย
ในปัจจุบันมีศิลปะป้องกันตัว
และศิลปะการต่อสู้มากมายหลากหลายชนิด เช่น มวยไทย คาราเต้ มวยเส้าหลิน มวยไทเก็ก
ยูโด เทควันโด คาโปเอร่า และอื่นๆ มากมายหลากหลาย
เนื่องจากศิลปะเหล่านี้ถูกคิดค้นจากมนุษย์
และคนเรานั้นต่างอยู่อาศัยในสถานที่ต่างกัน วัฒนธรรม การเลี้ยงดู
ภูมิประเทศที่ต่างกัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้คนที่อยู่ต่างสถานที่กัน มีความถนัด
ความสามารถ ความคิด และจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกันด้วย เช่น มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้
และป้องกันตัวที่เรียบง่าย และรุนแรง เหมาะที่จะใช้ในการสู้รบ
จัดทัพศึกเพื่อปกป้องประเทศชาติ คาโปเอร่า
ศิลปะป้องกันตัวด้วยเท้าของบลาซิล ที่เกิดขึ้นเนื่องจากสมัยที่เป็นทาสต้องปกปิดการฝึกฝนไว้จึงนำท่วงท่ามาประกอบเสียงเพลง มวยเส้าหลิน มวยจีนที่ถือกำเนิดจากพระ
เพื่อใช้ป้องกันตัวจากเหล่าสัตว์ป่าดุร้าย มวยไทเก็ก มวยจีนที่เกิดจากนักพรตเต๋า
แสวงหาความสงบในความเคลื่อนไหว อ่อนชนะแข็ง คาราเต้ วิชาจากโอกินาว่า ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างมวยเส้าหลิน
กับมวยพื้นเมือง และวิชาดาบสายจิเก็นริว
เพื่อตัดสินชิงชัยด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
และศิลปะการต่อสู้มากมายหลากหลายชนิด เช่น มวยไทย คาราเต้ มวยเส้าหลิน มวยไทเก็ก
ยูโด เทควันโด คาโปเอร่า และอื่นๆ มากมายหลากหลาย
เนื่องจากศิลปะเหล่านี้ถูกคิดค้นจากมนุษย์
และคนเรานั้นต่างอยู่อาศัยในสถานที่ต่างกัน วัฒนธรรม การเลี้ยงดู
ภูมิประเทศที่ต่างกัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้คนที่อยู่ต่างสถานที่กัน มีความถนัด
ความสามารถ ความคิด และจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกันด้วย เช่น มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้
และป้องกันตัวที่เรียบง่าย และรุนแรง เหมาะที่จะใช้ในการสู้รบ
จัดทัพศึกเพื่อปกป้องประเทศชาติ คาโปเอร่า
ศิลปะป้องกันตัวด้วยเท้าของบลาซิล ที่เกิดขึ้นเนื่องจากสมัยที่เป็นทาสต้องปกปิดการฝึกฝนไว้จึงนำท่วงท่ามาประกอบเสียงเพลง มวยเส้าหลิน มวยจีนที่ถือกำเนิดจากพระ
เพื่อใช้ป้องกันตัวจากเหล่าสัตว์ป่าดุร้าย มวยไทเก็ก มวยจีนที่เกิดจากนักพรตเต๋า
แสวงหาความสงบในความเคลื่อนไหว อ่อนชนะแข็ง คาราเต้ วิชาจากโอกินาว่า ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างมวยเส้าหลิน
กับมวยพื้นเมือง และวิชาดาบสายจิเก็นริว
เพื่อตัดสินชิงชัยด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ดังนั้นในศิลปะป้องกันตัว
และศิลปะการต่อสู้ จึงไม่ใช่วิชาที่รุนแรง หากแต่เป็นศาสตร์ และศิลป์ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
และมีประวัติสืบทอดกันมายาวนาน ประเทศชาติบางประเทศสามารถเป็นเอกราชได้เพราะมีศิลปะการต่อสู้ของชาติ
แต่ที่พวกเราติดภาพความรุนแรงของศิลปะการต่อสู้มา
เพราะการแสดงออกของบุคคลต่างๆที่อาจใช้ไปในทางที่ผิด
เช่นข่าวที่ว่านักกีฬาต่อสู้ชนิดหนึ่งทำร้ายภรรยาจนถึงแก่ชีวิต
และอดีตแชมป์ต่อสู้เป็นผู้ค้ายาเสพติด หรือเกิดจากการแสดงต่างๆ เช่นการทำลายข้าวของ
สับอิฐ ผ่าไม้ ซึ่งเหล่านี้เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของศิลปะการต่อสู้
และป้องกันตัวเท่านั้น ซึ่งแทบจะไม่มีความจำเป็นในการฝึกเลย และหาใช่ตัวตนที่แท้จริงของศิลปะไม่
และศิลปะการต่อสู้ จึงไม่ใช่วิชาที่รุนแรง หากแต่เป็นศาสตร์ และศิลป์ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
และมีประวัติสืบทอดกันมายาวนาน ประเทศชาติบางประเทศสามารถเป็นเอกราชได้เพราะมีศิลปะการต่อสู้ของชาติ
แต่ที่พวกเราติดภาพความรุนแรงของศิลปะการต่อสู้มา
เพราะการแสดงออกของบุคคลต่างๆที่อาจใช้ไปในทางที่ผิด
เช่นข่าวที่ว่านักกีฬาต่อสู้ชนิดหนึ่งทำร้ายภรรยาจนถึงแก่ชีวิต
และอดีตแชมป์ต่อสู้เป็นผู้ค้ายาเสพติด หรือเกิดจากการแสดงต่างๆ เช่นการทำลายข้าวของ
สับอิฐ ผ่าไม้ ซึ่งเหล่านี้เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของศิลปะการต่อสู้
และป้องกันตัวเท่านั้น ซึ่งแทบจะไม่มีความจำเป็นในการฝึกเลย และหาใช่ตัวตนที่แท้จริงของศิลปะไม่
ในการที่จะเลือกฝึกศิลปะป้องกันตัว
หรือ ศิลปะการต่อสู้นั้น ควรจะเลือกให้ถูกกับ ลักษณะนิสัย จุดมุ่งหมาย
ความชอบของตนเอง มากกว่าที่จะเลือกฝึกเพราะตามค่านิยม หรือตามเพื่อนไปฝึก
เนื่องจาก แต่ละศาสตร์นั้นจะมีจุดมุ่งหมายในการฝึกฝน ทัศนคติทางการต่อสู้ไม่เหมือนกัน
ดังเช่น คนที่มีนิสัยชอบชกต่อย ถ้าจะเลือกเรียนไอคิโด ก็คงไม่เหมาะเพราะไอคิโด
เป็นวิชาที่เน้นการผสานแรง รับ และเบี่ยงแรงคู่ต่อสู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ หรือให้คนที่ชอบหลีกเลี่ยงการต่อสู้
ชอบสันติวิธีมาฝึกมวยสากล ก็คงไม่เหมาะสมกันเท่าไหร่นัก และถึงแม้ว่าจะเป็นวิชาเดียวกันนั้น
แต่ว่าแต่ละคนนั้นย่อมมีจริตที่จะแสวงหาการต่อสู้ที่ไม่เหมือนกัน
บางคนจึงอาจจะฝึกวิชาไว้เพื่อป้องกันตัว แสวงหาความสงบในชีวิต
แต่บางคนกลับแสวงหาการต่อสู้ เพื่อไว้ใช้ในการต่อสู้แข่งขัน หรือเพื่อเป็นอาชีพ
ดังนั้นการจะเรียกกล่าวว่าวิชานั้นเป็นศิลปะการป้องกันตัว
หรือศิลปะการต่อสู้นั้นย่อมขึ้นกับใจของผู้ฝึกเอง
หรือ ศิลปะการต่อสู้นั้น ควรจะเลือกให้ถูกกับ ลักษณะนิสัย จุดมุ่งหมาย
ความชอบของตนเอง มากกว่าที่จะเลือกฝึกเพราะตามค่านิยม หรือตามเพื่อนไปฝึก
เนื่องจาก แต่ละศาสตร์นั้นจะมีจุดมุ่งหมายในการฝึกฝน ทัศนคติทางการต่อสู้ไม่เหมือนกัน
ดังเช่น คนที่มีนิสัยชอบชกต่อย ถ้าจะเลือกเรียนไอคิโด ก็คงไม่เหมาะเพราะไอคิโด
เป็นวิชาที่เน้นการผสานแรง รับ และเบี่ยงแรงคู่ต่อสู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ หรือให้คนที่ชอบหลีกเลี่ยงการต่อสู้
ชอบสันติวิธีมาฝึกมวยสากล ก็คงไม่เหมาะสมกันเท่าไหร่นัก และถึงแม้ว่าจะเป็นวิชาเดียวกันนั้น
แต่ว่าแต่ละคนนั้นย่อมมีจริตที่จะแสวงหาการต่อสู้ที่ไม่เหมือนกัน
บางคนจึงอาจจะฝึกวิชาไว้เพื่อป้องกันตัว แสวงหาความสงบในชีวิต
แต่บางคนกลับแสวงหาการต่อสู้ เพื่อไว้ใช้ในการต่อสู้แข่งขัน หรือเพื่อเป็นอาชีพ
ดังนั้นการจะเรียกกล่าวว่าวิชานั้นเป็นศิลปะการป้องกันตัว
หรือศิลปะการต่อสู้นั้นย่อมขึ้นกับใจของผู้ฝึกเอง
โดย โชคินโฮ
張錦鋒(チョウキンホウ
(บทความเก่าปี 2008)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น